วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ชนิดของอาหาร


1.อาหารแห้ง หรืออาหารเม็ด
จัดเป็นอาหารสำเร็จรูปที่ประกอบด้วยคุณค่าทางอาหารที่สมบูรณ์ มีความชื้น 6 - 10% ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นอาหารแห้งนั้น จะมีทั้งเมล็ดธัญพืช เนื้อวัว เนื้อไก่ ผลิตภัณฑ์จากปลา,นม ตลอดจนวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ นำมาผสมรวมกันในสัดส่วนที่เหมาะสมจะได้คุณค่าทางอาหารและพลังงานที่เหมาะกับสุนัขตามขนาดและความต้องการอาหาร ณ ช่วงนั้นๆ โดยจะผ่านขบวนการความสูญเสียของคุณค่าทางอาหารจะเกิดขึ้นเป็นบางส่วน วัตถุดิบอาหารที่ดีนั้นเมื่อนำมาผลิตเป็นอาหารเม็ดแล้วความสูญเสียส่วนนี้จะเกิดขึ้นน้อย
ข้อดี
1. มีคุณค่าทางอาหารสูง
2. ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับอาหารสำเร็จรูปชนิดกระป๋อง
3. ความสูญเสียเนื่องมาจากการเน่าเสียของอาหารมีน้อย
4. มูลสัตว์ที่ออกสามารถเก็บทำความสะอาดง่าย
ข้อเสีย
ความน่ากินและรสชาติของอาหารเมื่อเปรียบเทียบกับอาหารสำเร็จรูปชนิดกระป๋องแล้วด้อยกว่า


2. อาหารสำเร็จรูปชนิดกระป๋อง
จัดเป็นอาหารสำเร็จรูปซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์ เมล็ดธัญพืช ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ต่างๆ รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ มีความชื้นสูงประมาณ 75% ซึ่งอาหารกระป๋องที่ดีควรจะมีวัตถุอาหารที่ครบถ้วนสมดุลและผ่านขบวนการผลิตทำให้สุกโดยความร้อนหรือไอน้ำซึ่งเป็นการฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมาได้
ดังนั้นการให้สุนัขกินอาหารสำเร็จรูปชนิดกระป๋องเพียงอย่างเดียวสามารถทำได้ แต่ค่อนข้างสิ้นเปลืองเมื่อเทียบกับพลังงานและคุณค่าอาหารที่สัตว์จะได้รับแล้ว สุนัขต้องกินอาหารสำเร็จรูปชนิดกระป๋องในปริมาณมาก ดังนั้นมีทางเลือกอีกอย่างหนึ่งคือ คลุกอาหารกระป๋องกับอาหารเม็ดเข้าด้วยกัน จะเพิ่มความน่ากินของอาหารเม็ดและลดการใช้อาหารสำเร็จรูปชนิดกระป๋องโดยทีสัตว์สามารถได้คุณค่าทางอาหารที่ดี
ข้อดี
สะดวก และมีความน่ากินสูง
ข้อเสีย
ราคาแพง และถ้ากินไม่หมดในแต่ละมื้ออาจเกิดการบูดเน่าได้


3. อาหารที่ปรุงแต่งขึ้นเอง
การปรุงอาหารสดให้สุนัขกินเองนั้นคำนวณสูตรและปริมาณการให้ค่อนข้างยาก เพื่อจะให้ครบถ้วนตามความต้องการของสุนัข ซึ่งปกติสุนัขเป็นสัตว์ที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์ เราจะสามารถผสมสูตรอาหารให้กินได้มากมาย สุนัขจะมีความชอบในการกินอาหารประเภทนี้มาก ซึ่งปัจจัยหลักคือการให้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่คือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามินและเกลือแร่ ซึ่งในทางปฏิบัติทำได้ยาก โดยทั่วไปเจ้าของที่เลี้ยงสุนัขด้วยอาหารชนิดนี้ควรจะมีการเสริมวิตามินสำเร็จรูปในแต่ละมื้อ เพื่อเพิ่มปริมาณสารอาหารที่สำคัญซึ่งจะช่วยในการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ให้กับสุนัข
ข้อดี
1. สะดวก (ในบางกรณี)
2. ความน่ากิน
ข้อเสีย
1. สุนัขอาจได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน
2. การเน่าเสียของอาหาร จะส่งผลต่อสุขภาพของสุนัขได้
3. ทำให้สุนัขมีนิสัยเลือกกินอาหาร


4. ของว่างและขนมขบเคี้ยว
ขนมขบเคี้ยวของสุนัขนั้นปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล,มอลตีส,ชิสุ เป็นต้น ซึ่งเป็นการแสดงออกของความรักความผูกพันในอีกรูปแบบหนึ่งโดยมักไม่คำนึงถึงคุณค่าทางอาหารมากนัก สารอาหารในขนมขบเคี้ยวนั้นแต่ละบริษัทต่างปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติให้ถูกปากสุนัขมากที่สุด โดยอยู่ในรูปแบบของกระดูกปลอม บิสกิตสุนัข หรือเป็นชิ้นเนื้อ เบคอนต่างๆ ซึ่งใช้แต่งกลิ่นเป็นที่ชื่นชอบของสุนัขทั้งสิ้น ข้อดี ช่วยในการขัดฟัน ลดปัญหาหินปูนได้ หรือชะลอให้เกิดหินปูนช้าลง
ข้อดี
ช่วยในการขัดฟัน ลดปัญหาหินปูนได้ หรือชะลอให้เกิดหินปูนช้าลง


การให้อาหารลูกสุนัข


ลูกสุนัขแรกคลอดควรได้รับน้ำนมเหลืองจากแม่ (colostrum) โดยเร็วที่สุดหลังจากคลอดเพราะน้ำนมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่ามากที่สุด เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ มีแร่ธาตุที่จำเป็นในการสร้างกระดูกและฟัน มีโปรตีนสูง สำหรับลูกสุนัขที่อ่อนแอ ผอมบางผิวหนังเหี่ยวย่น ตัวเย็น เยื่อเมือกและผิวหนังหน้าท้องและขามีสีออกม่วง ในสัปดาห์แรกควรให้กลูโคสและน้ำตับดิบช่วยวันละ 2 - 3 ซีซี และอาจจะให้วิตามินเสริม
แม่สุนัขจะมีปริมาณน้ำนมมากที่สุดในสัปดาห์ที่ 2 - 3 หลังคลอดแล้วปริมาณน้ำนมจะค่อยๆ ลดลงตามลำดับ และจะลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่ 5 - 6 ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วงที่ลูกสุนัขหย่านม (weaning) อาหารแรกเริ่มที่เจ้าของจะให้ลูกสุนัขสามารถให้ตอนช่วงอายุ 5 - 6 สัปดาห์นี้ โดยอาจจะเริ่มให้เพียงเล็กน้อยก่อนในขณะที่ลูกสุนัขยังไม่หย่านม แล้วค่อยๆ เพิ่มประมาณอาหารตามลำดับ อาหารเริ่มแรกควรเป็นอาหารอ่อน บดละเอียด อุดมด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัสและวิตามินดี และเป็นอาหารที่มีคุณค่าของโปรตีนสูง เจ้าของสุนัขอาจจะเติมวิตามิน หรือน้ำมันตับปลาควบไปด้วย คุณภาพอาหารที่ให้มีความเช่นเดียวกันกับการเพิ่มปริมาณอาหารโดยเฉพาะระยะแรกที่เริ่มหย่านม ปริมาณครั้งของการให้อาหารสามารถแสดงได้ดังนี้ :-
อายุหลังหย่านม - 5 เดือน
ให้อาหารวันละ 4 ครั้งในปริมาณพอเหมาะ
- อาหารโปรตีนสูง
- อัตราส่วน Ca : P = 1.2 : 1.0
- เสริมวิตามิน
อายุ 5 - 6 เดือน
ให้อาหารวันละ 2 ครั้ง
- อาหารโปรตีนสูง
- อัตราส่วน Ca : P = 1.2 : 1.0
- เสริมวิตามิน A,D,B
สำหรับในลูกสุนัขที่ไม่ได้รับน้ำนมจากแม่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และควรให้สัตวแพทย์สอดท่อให้อาหารและให้อาหารสำหรับลูกสุนัขที่เหมาะสมไม่ควรให้ลูกสุนัขกินน้ำนมโคเพราะจะทำให้ท้องเสียและขาดน้ำได้ ดังนั้นการเลี้ยงดูลูกสุนัขกำพร้าหรือไม่ได้รับน้ำนมจากแม่ควรใช้สูตรอาหารดังต่อไปนี้ :-
สูตรที่ 1
ใช้นมผงสำเร็จรูปสำหรับลูกสุนัข
สูตรที่ 2
ผสมนม Evaporated Milk (ไม่ใช่ Skim Milk) 3 ส่วนกับน้ำ 1 ส่วน ป้อนให้ลูกสุนัขกิน หากมีอาการท้องเสียเกิดขึ้น ควรเจือจางน้ำนมลงไปอีก
สูตรที่ 3
ผสมอาหารกระป๋องลูกสุนัขสำเร็จรูป 2 ส่วนกับน้ำ 1 ส่วน แล้วปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปเลี้ยงลูกสุนัข
สูตรที่ 4
ส่วนผสม
นมสด (Whole Milk) 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
วิตามินรวมสำหรับเด็ก 1 หยด
ไข่แดง 2 ฟอง
นำมาปั่นรวมกัน 1 นาที แล้วนำไปเลี้ยงลูกสุนัข
นอกจากนี้ยังต้องดูแลเรื่องของอุณหภูมิด้วย เนื่องจากลูกสุนัขปกติจะมีอุณหภูมิแรกคลอดประมาณ 96.8๐F และจะมีอุณหภูมิเท่ากับสุนัขโตเมื่อลูกสุนัขมีอายุประมาณ 4 สัปดาห์ (101-102๐F) ถ้าลูกสุนัขมีอุณหภูมิร่างกายต่ำควรให้ความอบอุ่นอย่างสม่ำเสมอทุก 1 - 3 ชั่วโมงจนอุณหภูมิคงที่


การให้อาหารในสุนัขโต
การให้อาหารแก่สุนัขที่โตแล้วอาจจะให้ 1 มื้อหรือ 2มื้อก็ได้ โดยความต้องการอาหารในสุนัขแต่ละพันธุ์จะไม่เท่ากัน เช่นดังแสดงในตาราง

ปริมาณอาหารสำเร็จรูปต่อวันสำหรับสุนัขที่โตเต็มวัย
พันธุ์สุนัข
แคลอรี่ที่ต้องการ
อาหารกระป๋องต่อมื้อ
อาหารกึ่งชื้น
อาหารแห้ง
พันธุ์ทอย 5 กก. เช่นยอร์กไชร์เทอร์เรีย
210 แคลอรี่
เนี้อ 105 กรัม ส่วนประกอบอื่น 35 กรัม
70 กรัม
60 กรัม
สุนัขขนาดเล็ก10 กก. เช่นเวตส์ ไฮแลนด์ ไวท์ เทอร์เรีย
590 แคลอรี่
เนื้อ 300 กรัม ส่วนประกอบอื่น100 กรัม
190 กรัม
170 กรัม
สุนัขขนาดกลาง 20 กก. เช่นค็อกเกอร์ สแปเนียล
900 แคลอรี่
เนื้อ 450 กรัม ส่วนประกอบอื่น150 กรัม
300 กรัม
260 กรัม
สุนัขขนาดใหญ่ 40 กก. เช่นเยอรมัน เชพเพิร์ด
1680 แคลอรี่
เนื้อ 850 กรัม ส่วนประกอบอื่น280 กรัม
545 กรัม
480 กรัม
สุนัขขนาดยักษ์ 80 กก. เช่นเกรตเดน
2800 แคลอรี่
เนื้อ 1,400 กรัม ส่วนประกอบอื่น460 กรัม
900 กรัม
800 กรัม
ข้อแนะนำสำหรับการให้อาหาร
1. อาหารสำเร็จรูปควรเลือกใช้ของบริษัทที่น่าเชื่อถือ
2. ห้ามให้อาหารที่เสียแก่สุนัข
3. จัดน้ำสะอาดไว้ให้ตลอดเวลา
4. ห้ามให้อาหารเลี้ยงแมวกับสุนัขเพราะมีโปรตีนสูงเกินไป
5. อาหารที่ให้ควรมีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิห้อง
6. อาหารที่มีน้ำเป็นส่วนผสมที่กินเหลือไม่ควรเก็บไว้ในมื้อต่อไป
7. อาหารแห้งควรทิ้งวันต่อวัน
8. ไม่ควรปล่อยให้สุนัขอ้วนเกินไป
9. ห้ามให้กระดูกที่เปราะแก่สุนัขเช่น กระดูกไก่
10. สุนัขที่ไม่ยอมกินอาหารนานกว่า 24 ชั่วโมง อาจเป็นสัญญาณบอกว่าสุนัขเจ็บป่วยจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น