วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs)


สุนัขเฝ้ายาม เป็นมิตร ไม่ก้าวร้าว



.>>>ลักษณะทั่วไป<<<

     ตัวใหญ่ แข็งแรง กำยำ  มั่นคง ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มั่นใจ เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  เดิมเลี้ยงไว้เพื่อต้อนแกะ ทำงานบนภูเขา จึงมีกระดูกค่อนข้างใหญ่แข็งแกร่ง ขนสีดำ  มีสีสนิมแทรมสมมาตรกันระหว่างลำตัวทั้งสองด้าน และแต้มด้วยสีขาว โดยเฉพาะบริเวณอก มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 8-12 ปี



 >>>ความเป็นมา<<<
     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  มีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ พวกเขาเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้สำหรับใช้งานในฟาร์มโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะต้อนสัตว์ เฝ้ายาม ปกป้องทรัพย์สิน  แบกหามของขึ้นภูเขาสำหรับการล่าสัตว์ และการเดินเขา จนกระทั่งปีคริสตวรรษที่ 19 เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก ถูกสันนิษฐานว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากชาวไร่ชาวนาเลิกเลี้ยงมันเพราะมีเครื่องจักร เครื่องไถนาช่วยในการทำการเกษตรแทน อย่างไรก็ตามได้มีการค้นพบสายพันธุ์นี้อีกครั้งในเวลาต่อมา


>>>ลักษณะนิสัย<<<
     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดีเยี่ยม สามารถพิทักษ์ครอบครัวและทรัพย์สินได้ พวกเขาจะเห่าคนแปลกหน้าและผู้บุกรุก เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าของได้ยิน แต่ไม่ก้าวร้าว หรือทำร้ายใคร เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขที่เหมาะสำหรับเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัวทั้งสามารถดูแลและเป็นเพื่อนได้  พวกเขาเป็นมิตรกับเด็กๆ รักที่จะมีส่วนร่วมและอยู่รวมกับครอบครัว  ส่วนลูกสุนัขเกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก จะน่ารัก และเป็นมิตรมากเป็นพิเศษ แต่ก็ค่อนข้างซน ควบคุมยาก ชอบวิ่ง ชอบกระโดด วิ่งวุ่น วนไปวนมา แถมยังชอบ เห่าและกัดแทะสิ่งของอีกด้วย พวกเขาจะขี้เบื่อง่าย ถ้าต้องถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวแล้วก็เริ่มซนทำลายข้าวของ เรียกร้องความสนใจ ควรจะฝึกวินัยตั้งแต่เด็ก แล้วด้วยสัญชาตญาณเก่าเฝ้าระวังภัยที่มีอยู่ในสายเลือด เขาจึงเห่าทุกอย่างที่แปลกปลอมทั้งคนและเสียง ดังนั้นเขาควรได้รับการฝึกเพื่อไม่ให้เห่าพร่ำเพรื่อ สอนให้เขาออกสังคม อยู่ร่วมกับสัตว์ตัวอื่นๆ พบปะคนแปลกหน้าเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่าคนไหนคือคนที่ดี และคนไหนคือคนที่ไม่ดี
 

 >>>การดูแล<<<

     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขที่พลัดขนปานกลาง แต่จะพลัดขนเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างรอยต่อของฤดูพลัดขนทั้ง 2 ฤดู ควรพลัดขนทุกๆ สัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงฤดูพลัดขน ส่วนการอาบน้ำควรอาบน้ำให้ 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ควรใช้แชมพูสุนัขโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้แชมพูคน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ และควรแปรงขนก่อนอาบน้ำ เพื่อพลัดขนที่ตายแล้วให้หลุดออกไป

     สำหรับการออกกำลังกาย เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  ต้องการการออกกำลังกายปานกลาง ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ควรพาออกไปเดิน หรือวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวันอย่างเพียงพอ หรือจะหากิจกรรมให้เล่น เช่น ดึงลากรถเข็น หรือลากเลื่อน เป็นต้น ยิ่งเขาได้ออกกำลังกายเขาก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นๆ ยิ่งถ้าเป็นลุกสุนัขพลังงานสูง ซนไม่หยุด ควรพาเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้เขาได้ปลดปล่อยพลังงาน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้เขาออกกำลังอย่างหักโหม เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการฮีตสโตรกได้เมื่อเหนื่อยหรืออากาศร้อนจัดจนเกินไป เพราะโดยสายพันธุ์แล้วพวกเขาเหมาะที่จะเลี้ยงอากาศหนาว


>>>ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม<<<

     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขที่ในช่วงเด็กจะขี้เบื่อง่าย พลังงานสูง ชอบกัดแทะสิ่งของ ควรฝึกวินัยอย่างเคร่งครัด พาเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำ แต่หากโตเต็มวัยแล้ว การออกกำลังกายก็ไม่ควรมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดอาการฮีสโตรกได้ ควรสังเกตอาการขณะพาวิ่งเป็นพิเศษ ส่วนขนาดที่อยู่อาศัยพวกเขาสามารถปรับวิถีชีวิตให้เลี้ยงในอพาร์ตเม้นท์ได้ แต่ควรพาเขาไปออกกำลังกายทุกวัน และการทำความสะอาดเน้นเรื่องการแปรงขนเป็นพิเศษ ควรแปรงขนให้เป็นประจำทุกสัปดาห์

>>>ข้อควรจำ<<<
     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก มีโรคประจำสายพันธุ์คือกระดูกสะโพกเสื่อม ข้อกระดูกขาเสื่อม โรคกระเพาะกางขยายและบิดตัว ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ เส้นเลือดอาจฉีดขาด สามารถทำให้เสียชีวิตเฉียบพลัน นอกจากนี้ยังมีโรคเกี่ยวกับดวงตา และโรคลมชัก ดังนั้นควรดูแลสุขภาพของพวกเขาอย่างใกล้ชิด และพาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ 

 >>>มาตรฐานสายพันธุ์<<<
ขนาด   เพศผู้ส่วนสูงเฉลี่ย 25 – 28  นิ้วครึ่ง1/2 - 28 1/2 inches  น้ำหนัก 105 – 140 ปอนด์ เพศเมียส่วนสูงประมาณ 23 – 27 นิ้วครึ่ง น้ำหนัก 85 – 110 ปอนด์

ศรีษะ    ศีรษะแบน มีจุดหนักระหว่างตา 2 ข้างเล็กน้อย ศีรษะด้านหลัง กับปากมีความยาวใกล้เคียงกัน  แต่ด้านหลังศีรษะมีขนาดความกว้าง กว้างกว่าความกว้างของปาก 2 เท่า ปากหนา ใหญ่ และตรง

ฟัน       มีลักษณะเป็นฟันกรรไกร

ปาก    ริมฝีปากสะอาด กระชับ แห้ง ไม่แฉะน้ำลาย

ตา       ดวงตาทรงแอลมอนด์ขนาดปานกลาง นัยน์ตาสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลเข้ม ไม่ลึก ขอบตาสีดำ

หู       ขนาดปานกลาง ตั้งตรง ทรงสามเหลี่ยม ปลายหูโค้งมน หูตกลงข้างศีรษะ  ตำแหน่งบนของใบหูอยู่ด้านบนของกระโหลกศีรษะ

จมูก    สีดำทั้งจมูก

คอ       ยาวปานกลาง กล้ามเนื้อเด่นชัด แข็งแรง สะอาด

อก       อกกว้างลึก ซี่โครงช่วงอกขยาย ความลึกของอกอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของส่วนสูง

ลำตัว    ลำตัวค่อนข้างใหญ่ หนา กำยำ แต่ไม่เทอะทะ ช่วงต้นขาใหญ่ กว้าง และแข็งแรง ช่วงบั้นท้ายก่อนโคนหางกว้าง ยาว และกลมกลึงถึงปลายหาง

เอว      -

ขาหน้า    ขาหน้าตรง ยาว ช่วงไหล่ยาว แบน กล้ามเนื้อแข็งแรง ลาดลงไปทางด้านหลัง เท้ากลมรับกับ โค้งนิ้วเท้ากำลังดี

ขาหลัง    ขาหลังแข็งแรง กล้ามเนื้อสวยได้รูป ต้นขากว้าง แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ช่วงโค้งรับหน้าขาลงไปถึงท่อนลาดลงกำลังดี ท่อนเขาที่ต่ำกว่าต้นขาเมื่อมองจากด้านหลังทิ้งลง ตั้งตรง เท้ากลามมีส่วนโค้งรับกับนิ้วเท้ากำลังดี

หาง        กระดูกหางตรง โคนหางหนา แล้วค่อยแหลมขึ้นเมื่อถึงปลายหาง ปลายยาวอยู่ช่วงข้อขา ทิ้งต่ำ แต่ถ้าตื่นเต้น ตื่นตัวก็จะโค้งขึ้นสูง แต่ไม่ถึงกับม้วนขึ้น เหนือหลัง

ขน         ขนชั้นนอกยาวประมาณ 1-2 นิ้ว ขนชั้นในหนา โดยเฉพาะช่วงคอ แต่บางตัวก็หนาทั้งตัว ถ้าไม่มีขนชั้นในถือว่าไม่ได้มาตรฐานสายพันธุ์
สีขน


            ขนชั้นนอกดำ แต้มด้วยสีสนิมอย่างสมมาตรทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวา ที่เหนือดวงตา ข้างแก้ม ข้างหู หน้าอก ขาทั้ง 4 ข้าง แต่ที่ใต้หาง นอกจากนี้ยังมีสีขาวแต้มบริเวณ  กระบอกปาก ระหว่างกลางหน้าผาก  รอบคอเชื่อมมาถึงหน้าอก และ ปลายขาทั้ง 4 ข้าง ส่วนขนชั้นในควรเป็นมีเทาอ่อนไปถึงสีเทาเข้ม ไปถึงสีน้ำตาลอมส้ม

อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute)


แข็งแรง ใจดี รักสะอาด

 

ลักษณะทั่วไป

     อลาสกัน มาลามิวท์ เป็นสุนัขพันธุ์เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่งที่ใช้สำหรับลากเลื่อนในเขตอาร์คติก มีลักษณะ อกลึก กล้ามเนื้อแข็งแรงมาก เมื่อยืนตรงมีความสง่างามหัวเชิดสูง สายตาแสดงความตื่นตัว อยากรู้อยากเห็น และเป็นมิตร กระโลกศีรษะกว้าง หูตั้งเป็นรูปสามเหลียม กระบอกปากเรียวเล็กน้อย ไม่แหลม ไม่ยาว แต่ก็ไม่สั้น ขนชั้นนอกหยาบหนา ขนชั้นในอ่อนนุ่ม มาลามิวท์มีหลายสี มาร์กกิ้งบนหน้ามีลักษณะเฉพาะ สีบนหัวลักษณะเหมือนสวมหมวก หน้าอาจสีขาวทั้หมดหรือลักษณะเหมือนสวมหน้ากากและ/หรือมีแถบสี หางเป็นพวงพอดีโค้งไปบนหลัง มีกระดูกใหญ่ ขาแข็งแรง เท้าเหยียบมั่นคง อกลึกไหล่มีพลัง มีลักษณะทางกายภาพที่เหมาะสมกับการลากเลื่อน การวิ่งย่างก้าวได้มั่นคง สมดุล เหมือนไม่รู้จักเหนื่อย แต่ไม่เหมาะสมกับการลากเลื่อนเพื่อแข่งขันด้านความเร็ว แม้จะแข็งแรงอดทน


 ความเป็นมา
     อลาสกัน มาลามิวท์ เป็นสุนัขลากเลื่อน (Sled) แถบอาร์ติกที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง ได้ตั้งชื่อตามชาวเผ่าพื้นเมืองอินนุยท์ (Innuit) ที่มีชื่อว่า มาลามิว (Mahlamuts) ผู้ซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่แถบชายฝั่งโค เซบู เซาด์ (Kot - zebue sound) ในทางตะวันตกตอนบนอลาสก้า ระยะเวลาก่อนหน้าที่อลาสก้าจะตกมาอยู่ภายใต้การครอบครองของสหรัฐอเมริกา

ลักษณะนิสัย
     อลาสกัน มาลามิวท์ เป็นสุนัขที่มีอุปนิสัยขี้อ้อน เป็นมิตร ซื่อสัตย์ จงรักภักดี รักสันโดษและอาจดื้อบ้างในบางครั้ง โดยพวกเขามีความเป็นตัวของตัวเองสูง จึงอาจไม่ฟังคำสั่งได้ตามแต่กาลโอกาส เว้นเสียแต่ได้รับของรางวัล หรือสิ่งตอบแทนมาล่อใจ พวกเขาเป็นมิตรและมักอารมณ์ดี เมื่อได้อยู่ร่วมกับมนุษย์ ทว่าเจ้าของจำเป็นต้องฝึกให้เข้าสังคมมากพอ เพื่อทำให้พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกับสุนัขตัวอื่นโดยปกติสุข


     สำหรับคนที่คิดว่าน้องหมาอลาสกัน มาลามิวท์ตัวใหญ่จะต้องดุร้าย ก้าวร้าว เหมาะกับเป็นน้องหมาอารักขา เลี้ยงไว้สำหรับเฝ้าบ้าน ป้องกันขโมย อาจจะต้องคิดใหม่ค่ะ เพราะเห็นพวกเขาตัวใหญ่อย่างนี้ กลับเป็นน้องหมาที่ต้องหารความรัก การดูแลเอาใจใส่สูง เป็นมิตรแม้แต่คนแปลกหน้า ไม่ค่อยเห่าพร่ำเพรื่อ ออกจะเคลื่อนไหวเชื่องช้า ชอบนอนอยู่กับเจ้าของ เอาอกเอาใจเจ้าของ แม้จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเช่นเดียวกับไซบีเรียน ฮัสกี้ก็ตาม แต่ทว่าพวกเขาไม่ไฮเปอร์ ทำลายบ้านเรือน ทะลึ่งตึงตัง แสบสันเท่ากับไซบีเรียนฮัสกี้ 

การดูแล
     อลาสกัน มาลามิวท์ เป็นสุนัขที่ต้องได้รับการดูแลขนเป็นพิเศษ เนื่องจากพวกเขามีขนดก และหนา โดยการแปรงขนให้วันละ 5 นาที ถือว่าเหมาะที่สุด ทั้งนี้ อลาสก้า มาลามิวเพศผู้จะผลัดขน ปีละหนึ่งครั้ง ส่วนในเพศเมียปีละ 2 ครั้ง ทำให้ผู้เลี้ยงอาจประสบปัญหาบ้างในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นสุนัขที่ไม่มีกลิ่นตัว จึงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้บ่อยจนเกินไป

     ด้านการออกกำลังกาย อย่างที่ได้กล่าวไปตอนต้นแล้วว่า อลาสกัน มาลามิว เป็นสุนัขที่มี พละกำลังมาก ทำให้เขาต้องการการออกกำลังกายสูง เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกินทิ้งไป ผู้เลี้ยง จำเป็นต้องพาเขาไปออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 60-80นาที โดยอาจเป็นการวิ่ง หรือการละเล่น อื่นใดที่ทำให้เขาได้ใช้พลังงานอย่างเต็มที่

     สำหรับเรื่องโภชนาการ ก็เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์อื่น ผู้เลี้ยงควรให้อาหารเม็ดสำเร็จรูป มากกว่าอาหารปรุงเอง เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมและครบถ้วนมากกว่า ทั้งนี้ ในช่วง อายุ 5 เดือนขึ้นไป อลาสก้า มาลามิว จะโตเร็วกว่าสุนัขพันธุ์อื่นๆ ทำให้น้ำหนักตัวอาจเพิ่มอย่างรวดเร็ว จึงอาจมีปัญหาในการรับน้ำหนักอันเนื่องมาจากกระดูกที่โตช้ากว่านั่นเอง

 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่กระฉับกระเฉงและมีเวลาว่างมากพอที่จะพาพวกเขาไปปลดปล่อยพลังงาน ที่มีอยู่อย่างล้นเหลือด้วยการพาไปออกกำลังกาย ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว อลาสกัน มาลามิวท์ตัวใหญ๋มากๆ ถ้าไม่ระมัดระวังเป็นอย่างดีอาจจะทำให้มีน้ำหนักเกินได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความสะอาดขน ควรแปรงขนเป็นประจำทุกวัน เพื่อจัดการขนที่ร่วง ระมัดระวังผิวที่เปราะบาง แพ้ และแห้งง่าย หากขนเปียกน้ำ หรืออาบน้ำให้แก่พวกเขา ต้องเป่าไม่แห้ง เนื่องจากขนที่หนาอาจทำให้เกิดการอับชื้นที่ผิวหนัง ทำให้เป็นเชื้อรา หรือเกิดการอักเสบที่ผิวหนังได้

ข้อควรจำ
       อลาสกัน มาลามิวท์มีแนวโน้มที่จะเกิดโรคสะโพกเคลื่อนได้เช่นเดียวกับไซบีเรียน ฮัสกี้ ควรพาพวกเขาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรหักโหมจนเกินไป หากเลี้ยงในประเทศเขตร้อนควรระวังอาการฮีตสโตรกที่จะเกิดขึ้นระหว่าการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังอาจเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง และ กระเพาะบิด ควรให้รับประทานอาหารแต่พอดี 

วิดีโอ ของ สุนัข อลาสกัน มาลามิวท์



 มาตรฐานสายพันธุ์
ขนาด  เพศผู้สูง 25 นิ้ว หนัก 85 ปอนด์ เพศเมียสูง 23 นิ้ว หนัก 25 ปอนด์
ศรีษะ   ควรมีความกว้างอยู่ระหว่างหูทั้งสองข้างแล้วค่อย ๆ แคบลงทีละน้อยจนถึงดวงตา ควรมีสันนูนขึ้นเล็กน้อยระหว่างดวงตา เส้นบนสุดของกะโหลกศีรษะและเส้นขอบบนสุดของจมูกเป็นเส้นหักเล็กน้อยลาดลงมา
ฟัน    ขากรรไกรบนและล่างกว้างและมีฟันใหญ่ ฟันหน้าสบกันแน่น ขากรรไกรบนและล่างไม่ยื่น
ปาก    ริมฝีปากปิดสนิท
ตา       สีน้ำตาล ยาวรีคล้ายผลอัลมอนด์ ตาสีดำจะเป็นที่นิยม
หู        ควรมีขนาดปานกลาง แต่จะเล็กเมื่อเทียบกับศีรษะ ส่วนครึ่งบนของหูเป็นรูปสามเหลี่ยม กลมเล็กน้อยที่ตรงปลาย เมื่อตั้งตรงหูจะชี้ไปข้างหน้าเล็กน้อย แต่เมื่อสุนัขทำงานบางครั้งหูจะม้วน หูที่อยู่ในตำแหน่งสูงเป็นข้อบกพร่อง
จมูก   ควรมีขนาดใหญ่และล่ำสัน ค่อย ๆ ลดความกว้างและลึกลงทีละน้อยจากจุดต่อกับกะโหลกศีรษะมายังปลายจมูก ปลายจมูกเป็นสีดำ
คอ     ควรแข็งแรงและโค้งพอประมาณ
อก     หน้าอกควรแข็งแรงและกว้าง มีโครงสร้างกระชับแต่ไม่สั้น หลังควรเป็นแนวเส้นตรงค่อย ๆ ลาดเอียงไปทางสะโพก บั้นเอวควรมีกล้ามเนื้อและไม่สั้นเกินไป เพราะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวที่ง่ายดายและเป็นจังหวะ
ลำตัว  ลำตัวใหญ่ หนา เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ความกว้างของลำตัวและส่วนสูงใกล้เคียงกันกำลังดี
เอว      -
ขาหน้า   กระดูกขาหน้าใหญ่และมีมัดกล้ามเนื้อเป็นแนวเส้นตรงไปจนถึงข้อเท้าซึ่งควรสั้นและแข็งแรงและเกือบอยู่ในแนวดิ่ง เมื่อมองจากด้านข้างเท้าควรใหญ่และแน่น นิ้วเท้าเรียงชิดติดกันและงุ้มสวยงามอุ้งเท้าหนาและแข็งแรงเล็บเท้าสั้น ควรมีการป้องกันการเจริญเติบโตของขนระหว่างนิ้วเท้า
ขาหลัง  ขาหลังต้องกว้างและมีพละกำลัง มีมัดกล้ามเนื้อไปจนถึงต้นขาเข่าโค้งงอพอสมควร ข้อขาหลังกว้างและแข็งแรง โค้งงอพอประมาณและทอดลงได้รูปสวยงาม เมื่อมองจากด้านหลังกระดูกควรมีลักษณะโค้ง แต่ยืนและเคลื่อนที่อย่างแท้จริงในแนวเส้นตรงโดยการขับเคลื่อนของขาหน้า และไม่แนบชิดหรือกว้างเกินไป
หาง   มีขนาดพอเหมาะ มีขนปกคลุมดีและชูอยู่เหนือหลังเมื่อยังไม่ทำงาน ไม่มีลักษณะม้วนงอแน่น ขนที่หางต้องไม่สั้นมีลักษณะเหมือนสุนัขจิ้งจอกเป็นพุ่มกวัดแกว่งไปมา
ขน    ควรมีขนปกป้องลำตัวหยาบ หนา ไม่ยาวและไม่อ่อนนุ่ม ขนชั้นในดก หนาแน่น มีความยาว 1-2 นิ้ว มีน้ำมันหล่อและขนละเอียด ขนที่หยาบจะอยู่ด้านนอก มีแผงขนหนารอบคอ โดยทั่วไปขนค่อนข้างสั้น ขนจะยาวมากขึ้นบริเวณรอบบ่าและคอไล่ลงมาที่หลังและเหนือบริเวณส่วนท้าย รวมทั้งส่วนก้นจนถึงพวงหาง พันธุ์มาลามูทตามปกติจะมีขนสั้นกว่าและหนาแน่นน้อยกว่าเมื่อผลัดขนในช่วงระหว่างฤดูร้อน
สีขน   ตามปกติจะมีตั้งแต่สีเทาจาง สีเข้มข้นจนอยู่ในระดับดำปานกลางจนถึงสีดำ มักจะสีขาวอยู่ใต้ลำตัวส่วนของเท้า ขาและส่วนของหน้ากาก ควรเป็นลักษณะคล้ายหมวกแก๊ป และเหมือนหน้ากากอยู่บนใบหน้า สีขาวสดที่หน้ากากหรือรอบคอหรือจุดบนด้านหลังของคอเป็นสิ่งที่สวยงามและยอมรับได้ แต่จุดหรือแถบสีที่กระจายอยู่ทั่วตัวไม่เป็นที่นิยม เราควรแยกระหว่างสุนัขที่มีปกคลุมกับสุนัขที่มีแต้มสี สีเดียวทั้งตัวที่ยอมรับคือสีขาว

บอสตัน เทอร์เรียร์ (Boston Terrier)



หน้ามึน อารมณ์ดี ขี้เล่น

 ลักษณะทั่วไป
     สุนัขพันธุ์ บอสตัน เทอร์เรียร์ ลักษณะท่าทาง ของสุนัขสามารถบอกความมุ่งมั่น ความแข็งแรงและมีความตื่นตัว แม้จะเป็นสุนัขตัวเล็กแคระ แต่เขามีโครงสร้างได้สัดส่วน มีความสง่างาม โดยเฉพาะดวงตาโตใหญ่ที่บ่งบอกความรู้สึกได้

 ความเป็นมา
     บอสตัน เทอร์เรียร์พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา แมสซาชูเซ็ตต์ มีบรรพบุรุษของเขาคือสายพันธ์อิงลิช บูลด็อก และอิงลิช ไวท์ เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่เลี้ยงกันในกลุ่มคนรวย ได้รับจดทะเบียนโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1893

  ลักษณะนิสัย
      บอสตันเทอร์เรียนเป็นสุนัขที่เป็นมิตรทั้งกับคนและสัตว์อื่นๆ ร่าเริง กระตือรืร้น ฉลาดหลักแหลม ต้องการความรัก และการเอาใจใส่จากสมาชิกในครอบครัว แต่ก็พร้อมจะมอบความรัก ทุ่มเทให้แก่คนในครอบครัวเช่นกัน พวกเขาเป็นสุนัขที่มีความมุ่งมั่น รักการทำกิจกรรมเกือบทุกชนิด อีกทั้งยังรักความสะอาด ชอบอยู่เงียบๆ ข้างๆ เจ้าของ ไม่ไฮเปอร์ ซนและวุ่นวายให้ปวดหัว

การดูแล
     บอสตัน เทอร์เรียเป็น้องหมาขนสั้น เรียบเนียน ทำความสะอาดง่าย เน้นการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน อาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เน้นดูแลรอบใบหน้า หู และดวงตาเป็นพิเศษ ส่วนการออกกำลังกายควรพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เดินเล่น วิ่ง หรือหากิจกรรมให้ทำร่วมกับครอบครัว

 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     บอสตัน เทอร์เรีย เลี้ยงไม่ยาก สามารถอยู่ได้ในพื้นที่แคบอย่างเช่นอพาร์ตเม้นท์ การทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยาก แต่อาจจะต้องพาไปออกกำลังกายบ้างเพื่อควบคุมน้ำหนักและจะการกับพลังงานส่วนเกิน ไม่ควรเลี้ยงพวกเขาให้อยู่แยกจากคน หรือเลี้ยงไว้นอกบ้าน เพราะพวกเขาต้องการความรักและต้องการอยู่ใกล้คิดกับคนในครอบครัว

 ข้อควรจำ
     บอสตัน เทอร์เรียน มีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับดวงตาและหู ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่อาย ต้อกระจก ภาวะตาแห้ง หูอักเสบ หูหนวก ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติควรพาไปปรึกษาสัตวแพทย์ทันที

 มาตรฐานสายพันธุ์
ขนาด ความสูงจากพื้นถึงหัวไหล่ประมาณ 30 ซม.ถึง 45 ซม.
น้ำหนักประมาณ 6.8 กก.ถึง 12 กก.
ศรีษะ   มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม ส่วนบนของศีรษะค่อนข้างแบน ขนาดศีรษะพอดีกับลำตัว ไม่ดูใหญ่หรือเล็กกว่าจนเกินไป จุดหักบนใบหน้ากำลังดี
ฟัน       ฟันหน้าของขากรรไกรล่างยื่นออกมา (undershot)
ปาก     กระบอกปากกว้างและสั้น
ตา        ดวงตากลมโต ตาทั้ง 2 ข้างห่างกัน
หู         หูเล็กตั้งขึ้นเป็นทรงสามเหลี่ยม จะปล่อยให้เป็นธรรมชาติหรือจะขลิบใบหูออกก็ได้
จมูก     จมูกดำเป็นมัน
คอ       โค้งเล็กน้อยกำลังพอดี เรียบเนียน กล้ามเนื้อกระชับ
อก       อกกว้างลึก
ลำตัว    ลำตัวสมส่วน กระทันรัด กล้ามเนื้อกระชับ
เอว       -
ขาหน้า ขาหน้าตรง แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มองจากด้านหน้าจะเห็นขนานกันทั้ง 2 ข้าง
ขาหลัง ต้นขาแข็งแรงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ช่วงโค้งหน้าขารับกับท่อนขาล่างกำลังดี ท่อนขาล่างถึงข้อเท้าสั้น
หาง      หางสั้น ทิ้งลงต่ำ แต่ในบางขณะจะยกขึ้นสูงเป็นเส้นขนานกับพื้น
ขน       ขนสั้น เรียนเนียน เงางาม
สีขน    สีขาวกับสีดำ,สีลายเลือกับสีขาวสีแมวน้ำ หรือ สีน้ำตาลเข้มเฉดกับสีขาว